สารบัญ
- LG เครื่องลดความชื้น ความจุถัง 16 ลิตร รุ่น MD16GQSA1
- SHARP เครื่องลดความชื้น ถังน้ำ 4.2 ลิตร รุ่น DW-D20A-W
- Simplus เครื่องลดความชื้น ถังน้ำจุ 2.5 ลิตร รุ่น CUSH002
- Xiaomi Mi Mijia Smart Dehumidifier ถังน้ำขนาด 22 ลิตร
- Hafele เครื่องลดความชื้น สำหรับห้อง 20 ตรม. ECOM-292
- Bwell เครื่องลดความชื้น ถังน้ำความจุ 53 ลิตร รุ่น BDH-53
- Kashiwa เครื่องลดความชื้น ความจุถัง 1.2 ลิตร รุ่น HC-102
- HOMEMATE เครื่องดูดความชื้น 45 ตร.ม. รุ่น HOM-16F402
- Elementmax เครื่องลดความชื้นในครัวเรือน Dehumidifiers
- Deerma เครื่องลดความชื้น ขนาดเล็ก พกพาง่าย รุ่น CS50M
10 อันดับ เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี
1. LG เครื่องลดความชื้น ความจุถัง 16 ลิตร รุ่น MD16GQSA1
คืนความสมดุลของความชื้นในอากาศ ให้ความรู้สึกสบายตัว หายใจสะดวก ลดอาการภูมิแพ้ และนอนหลับสบายมากขึ้น ด้วย LG เครื่องลดความชื้น PuriCare Dehumifier ที่มาพร้อมคอมเพรสเซอร์ Dual Inverter จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสียงเงียบและทนทานกว่า สามารถกำจัดแบคทีเรียในอากาศด้วยไออน และมีระบบ Auto Cleaning ช่วยไล่ความชื้นอัตโนมัติ
คุณสมบัติ
- ช่วยคืนความสมดุลของความชื้นในอากาศ
- ให้ความรู้สึกสบายตัว หายใจสะดวก
- ลดอาการภูมิแพ้และนอนหลับสบายมากขึ้น
- คอมเพรสเซอร์ Dual Inverter Compressor
- มีโหมดช่วยเป่าผ้าแห้งในห้อง
- อุปกรณ์เป่าแห้งเฉพาะจุด Y-Hose และ T-Hose
- LG ThinQ™ ควบคุมสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน
- ทรงประสิทธิภาพสูงสุดถึง 30 ลิตรต่อวัน
- เทียบได้กับปริมาณน้ำ 250 มิลลิลิตร หรือน้ำ 120 ขวด
- ระบบฟอกอากาศนาโนไอออน
- กำจัดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายออกจากอากาศ
- Auto Cleaning ระบบไล่ความชื้นอัตโนมัติ
- ระดับเสียงขณะทำงานเบาเพียง 33 เดซิเบล
ข้อสังเกต
- ขนาด: รุ่น MD16GQSA1.ATH ขนาด 16 ลิตร
- ขนาด: รุ่น MD19GQGA1.ATH ขนาด 19 ลิตร
- รับประกันอะไหล่ 1 ปี, คอมเพสเซอร์ DUAL Inverter 10 ปี
- ภายในกล่อง: มีสินค้า, คู่มือ, ใบรับประกัน
2. SHARP เครื่องลดความชื้น รุ่น DW-D20A-W ถังน้ำ 4.2 ลิตร
SHARP เครื่องลดความชื้น รุ่น DW-D20A-W ขนาดถังน้ำ 4.2 ลิตร เหมาะกับห้องขนาด 50 ตารางเมตร ช่วยในการลดความชื้นในอากาศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ลดการเกิดเชื้อรา อีกทั้งทำให้หายใจโล่งขึ้น และป้องกันเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เกิดความเสียหาย เช่น กระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้าตัวเก่งของคุณจากการเป็นเชื้อรา
คุณสมบัติ
- เหมาะสำหรับห้องขนาด 50 ตารางเมตร
- ลดความชื้นได้สูงสุด 20 ลิตรต่อวัน ที่อุณหภูมิ 30 องศา
- ลดความชื้นได้สูงสุด 12 ลิตรต่อวัน ที่อุณหภูมิ 26.7 องศา
- ช่วยลดความชื้นในอากาศ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- ลดการเกิดเชื้อรา ทำให้หายใจโล่ง และลดการภูมิแพ้
- ช่วยป้องกันเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จากการเกิดเชื้อรา
- ลดกลิ่นอับในห้อง ด้วยโหมดลดความชื้น 3 ระดับ
- โหมดเป่าผ้า ช่วยให้ตากผ้าในร่มได้
- สามารถเลือกการทำงานได้ถึง 4 แบบ
- สามารถเลือกโหมดบานเกล็ดช่องลมอัตโนมัติ
- ปล่อยประจุ Plasmacluster 7000 ไอออน
- ใช้เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์
- ช่วยลดแบคทีเรีย ป้องกันกลิ่นเหม็นอับได้ดียิ่งขึ้น
- มาพร้อมหน้าจอแสดงปริมาณความชื้น
- สามารถตั้งเวลาทำงานได้ 2, 4 และ 6 ชั่วโมง
- มีล้อเลื่อนหมุนได้ สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย
ข้อสังเกต
- ขนาดถังน้ำ 4.2 ลิตร สามารถมองเห็นระดับน้ำได้
- ความยาวของสายไฟ 1.8 เมตร
- ขนาดเครื่อง: 37.4 x 62 x 25 เซนติเมตร
- การรับประกัน 1 ปี ตามเงื่อนไขของบริษัทผู้ผลิต
3. Simplus เครื่องลดความชื้น ถังน้ำจุ 2.5 ลิตร รุ่น CUSH002
Simplus เครื่องลดความชื้น ถังน้ำขนาด 2.5 ลิตร ดีไซน์ถังน้ำใส เพื่อให้คุณมองเห็นระดับน้ำได้ชัดเจน และมีเสียงรบกวนการทำงานที่เบา ไม่รบกวนขณะที่นอนหลับ เครื่องดูดความชื้นมีความจำเป็นสำหรับวันฝนตก เพื่อช่วยลดความชื้นในครัวเรือน ให้คุณหายใจได้โล่งมากขึ้น
คุณสมบัติ
- ช่วยลดความชื้นนาน 24 ชั่วโมง
- ไอออนลบลด และไล่ความชื้น
- ระบบป้องกันน้ำเต็ม ตัดไฟอัตโนมัติ
- ถังน้ำแบบใส วัสดุ ABS คุณภาพดี
- มองเห็นระดับน้ำได้ชัดเจน
- มาพร้อมแผงสัมผัส จอ LCD
- แสดงผลอุณหภูมิแบบเรียลไทม์
- เสียงรบกวน 35dB ในโหมดสลิป
- เสียง 42dB ในโหมดลดความชื้น
- ดีไซน์ใบพัดแบบ 3 มิติ ทำงานด้วยความเร็วคงที่
- ลดความชื้นในพื้นที่บริเวณกว้างถึง 100 ตารางเมตร
- เทน้ำเพียงอาทิตย์ละครั้ง ลดความชื้นสูงสุด 0.38 ลิตรต่อวัน
ข้อสังเกต
- เครื่องลดความชื้น ขนาดถังน้ำ 2.5 ลิตร
- กำลังไฟ 65W แรงดันไฟฟ้า 220V
- ขนาดเครื่อง: 35.5 x 23 เซนติเมตร
4. Xiaomi Mi Mijia Smart Dehumidifier ถังน้ำขนาด 22 ลิตร
Xiaomi Mi Mijia Smart Dehumidifier เครื่องลดความชื้นอัจฉริยะ ขนาด 22 ลิตร สามารถใช้งานโดยเชื่อมต่อผ่านแอพ เวอร์ชั่นจีนได้ ให้คุณบอกลาความชื้นไปอีกนาน มาพร้อมโหมดเป่าผ้าแห้งผ้า สามารถตากผ้าในที่ร่ม หรือแม้ในวันที่มีฝนตก เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเชื้อราบนเสื้อผ้าของคุณ
คุณสมบัติ
- ช่วยลดความชื้นได้เป็นอย่างมาก
- ตังเครื่องมีล้อ เคลื่อนย้ายสะดวก
- มีท่อระบายน้ำภายนอก ไม่ต้องเทน้ำ
- สามารถลดความชื้นได้อย่างต่อเนื่อง
- ใช้อุณหภูมิปกติที่: 5 °C ~ 35 °C
- มีโหมดเป่าแห้ง สำหรับตากผ้าในที่ร่ม
- ระบบควบคุมเสียงอัจฉริยะ
- การใช้งานเชื่อมต่อ APP อัจฉริยะ
- เสียงรบกวนเบาเพียง 41dB (A)
- ดูดความชื้นที่อุณหภูมิสูง 22L/D (30 °C/80%RH)
- ความจุลดความชื้น 0.45 กก./ชม. (27 °C/60% RH)
- ชนิดสารทำความเย็น R134a ปริมาณ 0.2 kg.
ข้อสังเกต
- เครื่องลดความชื้น ขนาดถังน้ำ 4.5 ลิตร
- กำลังไฟ 450W แรงดันไฟฟ้า 220V 50Hz
- ขนาดเครื่อง: 30 x 66 เซนติเมตร
- น้ำหนักเครื่อง: 12.5 กิโลกรัม
- สินค้าของแท้ 100% รับประกันร้าน 3 เดือน เงื่อนไขการรับประกัน บางกรณีอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
5. Hafele เครื่องลดความชื้น สำหรับห้อง 20 ตรม. รุ่น ECOM-292
HAFELE เครื่องลดความชื้น สำหรับห้องขนาด 20 ตารางเมตร ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน ช่วยลดความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ต่างๆ หรือผู้ที่ต้องการลดความชื้นในห้อง เช่น ห้องนอน, โรงแรม, โรงพยาบาล, ห้องซักล้าง หรือสำนักงาน เป็นต้น

คุณสมบัติ
- เหมาะสำหรับห้องขนาด 20 ตารางเมตร
- ลดความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ดูดความชื้นและสกัดน้ำได้สูงสุดถึง 750 มล. ต่อวัน
- อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการใช้งาน: 5-32 องศาเซลเซียส
- ระบบตัดอัตโนมัติเมื่อระดับน้ำในถังเต็ม
- มีไฟแสดงสถานะการทำงาน
- เสียงเงียบ ประหยัดเวลาและพลังงาน
- ระดับเสียง: น้อยกว่าหรือเท่ากับ 42 เดซิเบล
- ขนาดกะทัดรัด ง่ายในการใช้งานและเทน้ำทิ้ง
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ต่างๆ หรือผู้ที่ต้องการลดความชื้นในห้อง
ข้อสังเกต
- ความจุถังกักเก็บน้ำสูงสุดถึง 2 ลิตร
- กำลังไฟ 45W แรงดันไฟฟ้า 220-240V
- ขนาดเครื่อง: 22.8 x 15 x 37.3 เซนติเมตร
- น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม (ไม่รวมน้ำในถัง)
- การรับประกันสินค้าขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทฯ
6. Bwell เครื่องลดความชื้น ถังน้ำความจุ 53 ลิตร รุ่น BDH-53
Bwell เครื่องลดความชื้น ขนาดถังน้ำ 6.5 ลิตร เหมาะกับขนาดห้อง 40 ถึง 80 ตร.ม. สามารถลดความชื้นได้สูงสุดที่ 53 ลิตรต่อวัน มาพร้อมหน้าจอ Digital ที่มีตัวเลขบอกระดับความชื้น และสามารถเชื่อมต่อ Wifi เพื่อควบคุมการทำงานของเครื่องได้อย่างง่ายดาย
คุณสมบัติ
- เหมาะกับขนาดห้อง 40 - 80 ตร.ม.
- ความสามารถในการลดความชื้น 53 ลิตรต่อวัน
- ปรับค่าความชื้นที่ต้องการได้ 35% - 80%RH
- หน้าจอ Digital มีตัวเลขบอกระดับความชื้น
- สามารถเชื่อมต่อ Wifi ควบคุมการทำงาน
- ชนิดของสารทำความเย็น R290
- ระดับความดัง เมื่อใช้งาน 50dB(A)
- ทำงานด้วยระบบ Compressor
- ช่วยลดความชื้นภายในห้องอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อสังเกต
- เครื่องลดความชื้น ขนาดถังน้ำ 6.5 ลิตร
- กำลังไฟ 830W แรงดันไฟฟ้า 220-240V
- ขนาดเครื่อง: 42.8 x 33.2 x 65.5 เซนติเมตร
- น้ำหนักเครื่อง: 19.2 กิโลกรัม
- การรับประกันสินค้า: มีรับประกัน 1 ปี
7. Kashiwa เครื่องลดความชื้น ความจุถัง 1.2 ลิตร รุ่น HC-102
KASHIWA เครื่องลดความชื้น รุ่น HC-102 ความจุของถังน้ำ 1.2 ลิตร สามารถลดความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในห้องที่มีพื้นที่ประมาณ 10 – 30 ตร.ม. ลดความชื้นได้สูงสุด 100 มล. ต่อวัน ตัวเครื่องดีไซน์มาเพื่อช่วยป้องกันเสียงรบกวนขณะนอนได้ดี

คุณสมบัติ
- ถังเก็บน้ำ ดีไซน์ป้องกันเสียงรบกวน
- ถังน้ำวัสดุพลาสติก คุณภาพสูง
- มองเห็นระดับน้ำได้ชัดเจน
- ระบบป้องกันน้ำเต็ม ตัดไฟอัตโนมัติ
- มาพร้อมจอสัมผัส ง่ายต่อการใช้งาน
- ใช้งานง่าย ลดความชื้นได้เพียงกดปุ่มเดียว
- แสดงผลอุณหภูมิแบบเรียลไทม์
- สามารถลดความชื้นสูงสุด 100 มล./วัน
- เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ 10-30 ตร.ม.
- ช่วยลดกลิ่นอับชื้น และป้องกันเสื้อผ้าสิ่งของขึ้นรา
ข้อสังเกต
- ถังน้ำความจุ 1.2 ลิตร
- กำลังไฟ 30 วัตต์
- ขนาดเครื่อง 14.5 x 13.5 x 25 ซม.
8. HOMEMATE เครื่องดูดความชื้น 45 ตร.ม. รุ่น HOM-16F402
HOMEMATE เครื่องดูดความชื้น ที่เหมาะสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 45 ตร.ม. ช่วยลดวงจรชีวิตของไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย ด้วยการกรอง HEPA ที่ช่วยให้อากาศของคุณสะอาด บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น และสะดวกขึ้นด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi อัจฉริยะ ทั้งสำหรับ Android และ iOS
คุณสมบัติ
- ช่วยลดวงจรชีวิตของไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย
- การกรอง HEPA ช่วยให้อากาศสะอาด บริสุทธิ์
- สะดวกขึ้นด้วยการเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi อัจฉริยะ
- เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด 35-45 ตรม./ห้อง
- มาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน
- มีฟังก์ชั่นที่สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดได้
- มีตัวเลือกการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง
- ระดับเสียง 40-43 dB(A) วัดระดับเสียงโดยไม่ใส่ฟิลเตอร์
ข้อสังเกต
- เครื่องลดความชื้น ขนาดถังน้ำ 5.5 ลิตร
- กำลังไฟ 620W แรงดันไฟฟ้า 220-240V
- ขนาดเครื่อง: 30 x 33 x 54 เซนติเมตร
- น้ำหนักเครื่อง: 19/20.5 กิโลกรัม
- สินค้ารับประกันเฉพาะระบบไฟฟ้า 1 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
9. Elementmax เครื่องลดความชื้นในครัวเรือน Dehumidifiers
Elementmax เครื่องลดความชื้นในครัวเรือน จำเป็นสำหรับวันที่มีฝนตก หรือห้องที่มีความชื้นมาก ช่วยลดและดูดความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณหายใจโล่ง เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หรือต้องการลดความชื้นในอากาศให้อยู่ในระดับที่สมดุลมากที่สุด
คุณสมบัติ
- เหมาะกับพื้นที่ใช้สอย 21-30 ตร.ม.
- ความสามารถในการลดความชื้น 1,080ML
- ช่วยลดความชื้นด้วยปุ่มเดียว ใช้งานง่าย
- ทำให้อากาศโดยรอบสะอาด บริสุทธิ์
- มีการแสดงผลของอุณหภูมิและความชื้น
- ประหยัดพลังงาน ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- ป้องกันเชื้อรา น้ำค้าง ขึ้นตามเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
- เครื่องทำงานเสียงเงียบ มีเสียงรบกวนที่ต่ำ
ข้อสังเกต
- กำลังไฟ 90W แรงดันไฟฟ้า 220-240V
- การรับประกันสินค้า: มีรับประกัน 1 ปี
10. Deerma เครื่องลดความชื้น ขนาดเล็ก พกพาง่าย รุ่น CS50M
Deerma Dehumidifier เครื่องลดความชื้นขนาดเล็ก พกพาสะดวก รุ่น DEM-CS50M ครอบคลุมพื้นที่ 360 องศา ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 800 กรัม แต่ทรงประสิทธิภาพในการลดความชื้นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมลดเสียงรบกวนของการทำงาน เพื่อให้คุณพักผ่อนได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติ
- เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด 5 ตร.ม. (≤5m2)
- ถังเก็บน้ำคู่ สามารถเปิดออกได้
- สามารถปรับได้โดยการสัมผัส
- ปรับตั้งค่าได้ตามความต้องการ
- ช่วยดูดซับมลพิษและหมอกควันได้
- ดูดความชื้นอย่างต่อเนื่องนานถึง 15 ชั่วโมง
- เสียงการทำงาน เบาเพียง 35dB
ข้อสังเกต
- เครื่องลดความชื้น ขนาดถังน้ำ 4 ลิตร
- กำลังไฟ 20W แรงดันไฟฟ้า 220V 50Hz
- ขนาดเครื่อง: 7.5 x 7.5 x 20.6 เซนติเมตร
- น้ำหนักเครื่อง: 800 กรัม
- เงื่อนไขการรับประกัน: มีรับประกันตัวเครื่อง
Top Brand : เครื่องดูดความชื้น ที่นิยมมากที่สุด

Sharp

Simplus

Hafele

Bwell

AirpurePRO

Homemate

Elementmax

Phlinice
วิธีเลือกซื้อ เครื่องดูดความชื้น
เครื่องดูดความชื้น (Dehumidifier) คือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใช้สำหรับลดความชื้นในอากาศในพื้นที่หรือห้องให้ลดลง เพื่อให้สภาพแวดล้อมมีความสมดุล โดยปกติแล้วเครื่องดูดความชื้นจะทำหน้าที่ดูดความชื้นจากอากาศ ทำให้อากาศในห้องหรือพื้นที่ที่คุณอยู่มีความชื้นที่ต่ำลง
การใช้งานเครื่องดูดความชื้นมักจะเป็นไปตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:
- ตั้งค่าระดับความชื้น: ปรับค่าความชื้นที่ต้องการให้เครื่องดูดความชื้นลดลงได้ตามที่ต้องการ เช่น ให้ความชื้นในอากาศเป็น 50-60% เป็นต้น
- เปิดเครื่อง: เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว กดปุ่มเปิดเครื่องให้เครื่องเริ่มทำงาน
- รอให้เครื่องดูดความชื้น: เครื่องจะดูดความชื้นจากอากาศในห้อง แล้วส่งอากาศที่มีความชื้นต่ำกลับออกมา
- ปิดเครื่อง: เมื่อความชื้นในอากาศลดลงตามที่ต้องการแล้ว สามารถปิดเครื่องได้เลย
วิธีการเลือกซื้อ เครื่องดูดความชื้น มาใช้งานอย่างเหมาะสม
ความชื้นในอากาศมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพและความสบายของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะในสภาวะที่มีความชื้นสูงมาก เช่น ฤดูฝนหรือประเทศที่มีอากาศชื้นสูง การใช้เครื่องดูดความชื้นเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมระดับความชื้นให้เหมาะสม ดังนั้น การเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้นนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้นอย่างรอบคอบ ดังนี้
- พื้นที่ใช้งาน:
ก่อนอื่นให้คำนึงถึงพื้นที่หรือห้องที่ต้องการใช้งานเครื่องดูดความชื้น ว่ามีขนาดใหญ่หรือเล็ก มีความชื้นสูงมากหรือน้อยอย่างไร ซึ่งจะช่วยให้เราเลือกเครื่องดูดความชื้นที่มีความสามารถในการปรับความชื้นตรงกับความต้องการของพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม
- ปริมาณการดูดความชื้น:
ความสามารถในการดูดความชื้นของเครื่องดูดความชื้นนั้นสำคัญมาก เนื่องจากมันจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการควบคุมความชื้นในพื้นที่ ดังนั้น ควรเลือกเครื่องที่มีความสามารถในการดูดความชื้นให้ได้มากพอสำหรับพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน
- ระบบการทำงาน:
มีเครื่องดูดความชื้นที่ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบฟองอากาศ หรือ ระบบที่ใช้แหล่งพลังงานอื่นๆ ควรพิจารณาดูว่าเครื่องที่เราเลือกมีระบบการทำงานใดที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานของเรา
- ความปลอดภัย:
การเลือกเครื่องดูดความชื้นที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง เช่น มีการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของการใช้งานมากขึ้น
- ความน่าเชื่อถือและบริการหลังการขาย:
เลือกเครื่องดูดความชื้นจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือสูง และควรตรวจสอบบริการหลังการขาย เช่น การรับประกัน บริการซ่อมบำรุง ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจในการใช้งานในระยะยาว
สรุป การดูดความชื้นด้วยเครื่องดูดความชื้นมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยลดกลิ่นอับ ลดเชื้อรา ป้องกันการเสียหายของเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ภายในที่พักอาศัย เป็นต้น อีกทั้งยังช่วยให้สภาพอากาศสะอาดและเหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นด้วยในระยะยาว ด้วยการพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ คุณจะสามารถเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมของคุณได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยที่สุด