การเลือกซื้อ ที่นอนยางพารา นั้น สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณามีดังนี้

• ประเภทของยางพารา ยางพาราที่ใช้ทำที่นอน มี 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

  • ยางพาราธรรมชาติ (Natural Latex) เป็นยางพาราแท้ 100% มีความยืดหยุ่นสูง คืนตัวได้ดี ระบายอากาศได้ดี และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ แต่ราคาค่อนข้างสูง
     
  • ยางพาราสังเคราะห์ (Synthetic Latex) เป็นยางพาราผสมกับวัสดุอื่น ๆ เช่น โพลียูรีเทน โพลีเอสเตอร์ เป็นต้น มีความยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดีเช่นกัน แต่ราคาย่อมเยากว่ายางพาราธรรมชาติ
     

• ความหนาแน่น ความหนาแน่นของยางพาราเป็นตัวกำหนดความแน่นหรือความนุ่มของที่นอน โดยที่นอนที่มีค่าความหนาแน่นสูง จะมีความแน่นและคืนตัวได้ดี ในขณะที่ที่นอนที่มีค่าความหนาแน่นต่ำ จะมีความนุ่มและรองรับสรีระได้ดียิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ความหนาแน่นที่เหมาะสมสำหรับที่นอนยางพาราอยู่ที่ประมาณ 80-110 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร

• ระดับความนุ่ม ระดับความนุ่มของที่นอนยางพารา มีให้เลือกหลากหลายระดับ ตั้งแต่นุ่มมาก นุ่มปานกลาง จนถึงแน่น ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล โดยผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดหลัง ปวดคอ ควรเลือกที่นอนที่มีความนุ่มปานกลางหรือแน่น เพื่อให้รองรับสรีระได้ดี

• ขนาดและราคา ขนาดของที่นอนยางพารา มีให้เลือกหลากหลายขนาด ตามความเหมาะสมของห้องนอนและจำนวนผู้นอน โดยที่นอนยางพาราขนาดมาตรฐานทั่วไป มีดังนี้

  • เตียงเดี่ยว ขนาด 3.5 ฟุต (105×190 ซม.)
  • เตียงคู่ ขนาด 5 ฟุต (150×190 ซม.)
  • เตียงคิงไซส์ ขนาด 6 ฟุต (180×190 ซม.)
  • เตียงควีนไซส์ ขนาด 7 ฟุต (190×190 ซม.)

ราคาของที่นอนยางพารา ขึ้นอยู่กับประเภทของยางพารา ความหนาแน่น ระดับความนุ่ม และขนาด โดยที่นอนยางพาราธรรมชาติจะมีราคาสูงกว่ายางพาราสังเคราะห์

เมื่อพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ควรทดลองนอนที่นอนยางพาราก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อหาที่นอนที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้ทดลองนอนที่นอนยางพาราอย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับตัวและรู้สึกถึงความสบายที่แท้จริง